Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

5 เรื่องที่พ่อแม่ต้องรู้ก่อนส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์

Posted By Plook TCAS | 04 ส.ค. 66
13,749 Views

  Favorite

การรู้หลายภาษาเป็นความได้เปรียบในโลกปัจจุบันที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว พ่อแม่จึงอยากให้ลูกได้เรียนรู้มากกว่าหนึ่งภาษาตั้งแต่ยังเล็ก โดยจะส่งให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ ซึ่งจะเน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ พ่อแม่หวังสร้างอนาคตให้ลูก ต้องการให้ลูกมีโอกาสดี ๆ ในวิชาชีพและการทำงาน มีสังคมกว้างขวางในระดับนานาชาติ แต่ก่อนตัดสินใจจะให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ตามที่เราวาดหวัง ขอให้พิจารณา 5 ประเด็นสำคัญต่อไปนี้ เพื่อดูว่าเราจะไปต่อทางไหน อย่างไร และลูกจะอยู่ในวิถีทางที่เราวางไว้ให้เดินหรือไม่

 

1. ดูความถนัด ความพร้อม และลักษณะนิสัยของลูก

Mindset ของพ่อแม่มีอิทธิพลต่อชีวิตของลูกอย่างมาก เพราะลูกยังเล็กเกินกว่าจะคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง พ่อแม่คือผู้กำหนดเส้นทางชีวิต และเราย่อมรู้จักลูกของเราดีกว่าใคร ๆ ลูกเราเป็นคนมีลักษณะนิสัยอย่างไร ชอบเข้าสังคมกับผู้คนหลากหลายหรือไม่ ลูกแสดงออกว่ามีความถนัดและความชอบในด้านใดเป็นพิเศษ เช่น ดนตรี ศิลปะ ภาษา กีฬา ชอบทำกิจกรรมหรือมุ่งวิชาการ ฯลฯ ความสุขและความพร้อมของลูกในการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของเราที่อยากให้ลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติเด่นดังหรือไม่ เราจะสร้างภาระหนักเกินไปหรือไม่กับลูกน้อยที่ยังเป็นเด็กเล็ก

 

2. พิจารณาเรื่องความพร้อมทางการเงินของครอบครัว

ค่าใช้จ่ายในการเรียนโรงเรียนอินเตอร์สูงมากเมื่อเทียบกับโรงเรียนทั่วไป และยังสูงได้อีกหลายระดับตามเกรดของโรงเรียน ชื่อเสียงของโรงเรียน และความนิยมที่มีต่อโรงเรียนอินเทรนด์ เราต้องพิจารณาให้ชัดเจนถี่ถ้วนเรื่องการเงินของครอบครัวว่ามั่นคงถาวรหรือไม่ มีรายได้จากทางใดบ้างที่จะตอบสนองโจทย์ในการส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกที่จะเรียนได้ตลอดรอดฝั่ง อย่าให้สถานภาพทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองทำให้ลูกสะดุดกลางทาง ไม่สามารถส่งลูกให้เรียนต่อจนจบหลักสูตรของโรงเรียนได้ เพราะลูกจะปรับตัวได้ไม่ง่ายนักหากต้องกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนธรรมดากลางคัน ทั้งในเรื่องการสื่อสารเชิงภาษา เชิงความคิด และเชิงวัฒนธรรม ลูกน้อยยังเล็กมาก การต้องปรับตัวแบบเร่งด่วนและฉับพลัน อาจทำให้ลูกเกิดความสับสน ความกดดัน จัดระเบียบสมองและสังคมของตัวเองได้ยาก เข้ากับเพื่อน ๆ ไม่ได้ หากลูกเคยชินกับความมีอิสระในหลาย ๆ ด้านจากโรงเรียนอินเตอร์ แล้วต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนธรรมดาที่เคร่งครัด อาจทำให้ลูกเกิดความคับข้องใจซึ่งส่งผลไปถึงการเรียน และลูกอาจเป็นเด็กมีปัญหาหากปรับตัวไม่ได้ เมื่อมาอยู่ในสังคมและสภาพแวดล้อมของโรงเรียนที่ต่างรูปแบบกัน และหากในกรณีที่พ่อแม่มีลูกหลายคน ยิ่งต้องพิจารณาเรื่องกำลังทรัพย์ให้ละเอียดรอบคอบ

 

3. ศึกษาหลักสูตรและข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนอินเตอร์ที่อยากให้ลูกเรียน

โรงเรียนอินเตอร์ใช้วิธีการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีหลักสูตรหลายระบบคือ ระบบอเมริกัน ระบบอังกฤษ และระบบนานาชาติ ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไป เราต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาก่อนส่งลูกเข้าเรียนในหลักสูตรที่เราเลือก และต้องมั่นใจว่า ในอนาคตลูกจะได้ใช้ประโยชน์จากภาษาอังกฤษในหลักสูตรนั้น ๆ ได้คุ้มค่า คุ้มราคา และคุ้มเวลา

 

4. ภาษาที่ใช้สื่อสารในครอบครัว เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาของลูก

หากพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษได้ เราอาจพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ โดยไม่ทอดทิ้งภาษาไทย เพราะภาษาไทยเป็นภาษารากเหง้าของเราเอง หากลูกเราถนัดภาษาอังกฤษ แต่อ่อนมากกับภาษาไทยทั้งการพูด การอ่าน และการเขียน ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า หากเพื่อนของลูกซึ่งเป็นคนต่างชาติ แล้ววันหนึ่งเขาอยากเรียนภาษาไทย มาถามภาษาไทยกับลูกซึ่งเป็นคนไทย แต่ลูกไม่สันทัดเลยเรื่องภาษาไทย แล้วจะเป็นอย่างไร หรือหากเราพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่สันทัดนัก ลูกคงไม่ได้รับการฝึกฝนทักษะทางภาษาที่ดี ลูกต้องสื่อสารสองภาษาสลับไปมา ต้องมีการปรับสมองปรับความคิดตลอดเวลา ไม่สามารถพัฒนาทักษะและความเข้าใจภาษาได้อย่างถูกต้อง ลูกน้อยรับไหวมั้ย หรือหากลูกเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียน แล้วเราไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูกได้ ลูกจะเสียโอกาสการพัฒนาทักษะการเรียนรู้จากที่บ้าน คงได้แต่พึ่งพาความรู้ที่โรงเรียนเท่านั้น และอย่าลืมว่าลูกของเรายังเล็กมาก หากเราไม่สามารถดูแลเรื่องการเรียนของลูกได้ ลูกจะพึ่งใครได้

 

5. รับความเป็นเด็กอินเตอร์ของลูกได้ไหม หากลูกอยากเป็นตั้งแต่เล็ก

ชีวิตความเป็นอยู่และสังคมของลูกที่โรงเรียนอินเตอร์มีความหลากหลายต่างวัฒนธรรม ลูกได้รู้จักเพื่อนอินเตอร์มากมาย สังคมอินเตอร์ทำให้ลูกกล้าคิด กล้าแสดงออก มีความเป็นตัวตนสูง ซึ่งบางครั้งอาจเกินเลยไปบ้าง กิริยามารยาท การพูดจา สัมมาคารวะ และพฤติกรรมอาจเปลี่ยนแปลงไป เพราะพบเห็นและรับเอามาจากเพื่อนนักเรียนซึ่งเป็นคนต่างชาติ และลูกเริ่มอยากทำตัวเป็นเด็กอินเตอร์บ้างแล้ว เราจะมีวิธีการ “บ่มเพาะ” ลูกของเรา ให้เรียนรู้และรับรู้วัฒนธรรมที่งดงามบ่งบอกความเป็นไทยได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ลูกปรับตัวอยู่ได้ในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข

เราในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ควรกดดันลูกให้เป็นไปตามไลฟ์สไตล์และความคาดหวังของตัวเองมากเกินไป “ตัวตน” และ “ความสุข” ของลูกในการเรียนรู้เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาลูกให้เป็นคนดี มีความสุข และเป็นคนที่เติบโต

 

ณัณท์

 

ข้อมูลอ้างอิง ทำความรู้จักโรงเรียนนานาชาติ International School จะส่งลูกไปเรียนดีไหม? https://www.rakluke.com/learning-all/education/item/international-school.html

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow